อุทาหรณ์ หนูน้อยวัย 11 เดือน คว้าสายชาร์จมือถือยังเสียบปลั๊กเข้าปาก ชักตาตั้งหวิดดับ
ที่มา : www.sanook.com
_____________________________________________
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า (15 ต.ค.) ได้รับแจ้งว่ามีเด็กถูกไฟฟ้าช็อตได้รับบาดเจ็บที่บ้านเช่าไม่มีเลขที่ หมู่ 3 ต.ปลวกแดง อ.ปลวกแดง จ.ระยอง และได้นำตัวส่ง รพ.ปลวกแดง ไปแล้ว จึงได้เดินทางไปตรวจสอบที่ รพ.ปลวกแดง
ที่ รพ.ดังกล่าว ผู้สื่อข่าว ได้พบกับ นางวิลาวัลย์ อายุ45ปี ชาวจังหวัดอุดรธานี กำลังอุ้มผู้เป็นหลาน ด.ช.เสฎฐวุฒิ หรือ น้องปลื้ม อายุ 11 เดือน อยู่ในอ้อมกอด และพบเด็กชายคนดังกล่าวบริเวณแก้มด้านขวาและลิ้น มีร่องรอยถูกไฟไหม้
นางวิลาวัลย์ ได้เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า เหตุเกิดเมื่อวานนี้ช่วงใกล้ค่ำ ซึ่งปกติตนเองจะเป็นคนเลี้ยงน้องปลื้ม เนื่องจากพ่อกับแม่ของน้องปลื้ม ต้องเดินทางไปทำงาน และในวันที่เกิดเหตุซึ่งเป็นวันหยุด ได้มีเพื่อนๆ ของแม่น้องปลื้มเดินทางมาเล่นที่บ้านกันหลายคน
และได้เอาโทรศัพท์มาเสียบสายชาร์จแบตโทรศัพท์มือถือไว้ที่บ้าน หลังจากที่ชาร์จแบตจนเต็มแล้วจึงถอดโทรศัพท์มือถือออก แต่ไม่ได้ถอดที่ชาร์จออกจากปลั๊กไฟปล่อยให้สายชาร์จห้อยลงมาอยู่กับพื้น
หลังจากนั้นก็นำโทรศัพท์มานั่งเล่นกันตามปกติ สักพักใหญ่ๆ สังเกตเห็นน้องปลื้มได้เข้ามาที่บริเวณสายชาร์จแบต และมีอาการชักกระตุกล้มลงกับพื้นบ้าน และมีสายชาร์จมือถือติดคาอยู่ที่ปาก ตนเองจึงได้เข้าไปอุ้มตัวน้องปลื้มขึ้นมา ปรากฏว่าไฟได้ดูดตัวเอง
ตนจึงได้ตะโกนให้คนที่อยู่ตรงนั้น ไปทำการตัดสวิตช์ไฟลง เนื่องจากที่บ้านไม่มีเครื่องตัดไฟอัตโนมัติ จากนั้นจึงได้ช่วยกันอุ้มน้องปลื้มส่ง รพ.ปลวกแดง เพื่อให้แพทย์ทำการรักษาดูแลอาการ ซึ่งตอนนี้อาการของน้องปลื้มปลอดภัยแล้ว
นางวิลาวัลย์ ผู้เป็นยายของน้องปลื้ม กล่าวอีกว่า อยากให้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับหลานตนเองในครั้งนี้ เป็นอุทาหรณ์เตือนใจกับผู้ปกครองหรือคนในบ้านว่า อย่าได้ประมาทกับสิ่งเล็กๆ ที่คาดไม่ถึง เมื่อชาร์จแบตโทรศัพท์มือถือ ก็ควรจะนำเครื่องชาร์ตออกจากปลั๊กไฟด้วย อย่าปล่อยทิ้งไว้ เด็กไม่รู้เข้ามาเล่นก็จะเกิดเหตุการณ์อย่างน้องปลื้ม ซึ่งเหตุการณ์ครั้งนี้ถือว่าน้องปลื้มยังเคราะห์ดีที่มีคนมาพบเห็นทันท่วงที และสามารถช่วยเหลือเอาไว้ได้
ที่ รพ.ดังกล่าว ผู้สื่อข่าว ได้พบกับ นางวิลาวัลย์ อายุ45ปี ชาวจังหวัดอุดรธานี กำลังอุ้มผู้เป็นหลาน ด.ช.เสฎฐวุฒิ หรือ น้องปลื้ม อายุ 11 เดือน อยู่ในอ้อมกอด และพบเด็กชายคนดังกล่าวบริเวณแก้มด้านขวาและลิ้น มีร่องรอยถูกไฟไหม้
นางวิลาวัลย์ ได้เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า เหตุเกิดเมื่อวานนี้ช่วงใกล้ค่ำ ซึ่งปกติตนเองจะเป็นคนเลี้ยงน้องปลื้ม เนื่องจากพ่อกับแม่ของน้องปลื้ม ต้องเดินทางไปทำงาน และในวันที่เกิดเหตุซึ่งเป็นวันหยุด ได้มีเพื่อนๆ ของแม่น้องปลื้มเดินทางมาเล่นที่บ้านกันหลายคน
และได้เอาโทรศัพท์มาเสียบสายชาร์จแบตโทรศัพท์มือถือไว้ที่บ้าน หลังจากที่ชาร์จแบตจนเต็มแล้วจึงถอดโทรศัพท์มือถือออก แต่ไม่ได้ถอดที่ชาร์จออกจากปลั๊กไฟปล่อยให้สายชาร์จห้อยลงมาอยู่กับพื้น
หลังจากนั้นก็นำโทรศัพท์มานั่งเล่นกันตามปกติ สักพักใหญ่ๆ สังเกตเห็นน้องปลื้มได้เข้ามาที่บริเวณสายชาร์จแบต และมีอาการชักกระตุกล้มลงกับพื้นบ้าน และมีสายชาร์จมือถือติดคาอยู่ที่ปาก ตนเองจึงได้เข้าไปอุ้มตัวน้องปลื้มขึ้นมา ปรากฏว่าไฟได้ดูดตัวเอง
ตนจึงได้ตะโกนให้คนที่อยู่ตรงนั้น ไปทำการตัดสวิตช์ไฟลง เนื่องจากที่บ้านไม่มีเครื่องตัดไฟอัตโนมัติ จากนั้นจึงได้ช่วยกันอุ้มน้องปลื้มส่ง รพ.ปลวกแดง เพื่อให้แพทย์ทำการรักษาดูแลอาการ ซึ่งตอนนี้อาการของน้องปลื้มปลอดภัยแล้ว
นางวิลาวัลย์ ผู้เป็นยายของน้องปลื้ม กล่าวอีกว่า อยากให้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับหลานตนเองในครั้งนี้ เป็นอุทาหรณ์เตือนใจกับผู้ปกครองหรือคนในบ้านว่า อย่าได้ประมาทกับสิ่งเล็กๆ ที่คาดไม่ถึง เมื่อชาร์จแบตโทรศัพท์มือถือ ก็ควรจะนำเครื่องชาร์ตออกจากปลั๊กไฟด้วย อย่าปล่อยทิ้งไว้ เด็กไม่รู้เข้ามาเล่นก็จะเกิดเหตุการณ์อย่างน้องปลื้ม ซึ่งเหตุการณ์ครั้งนี้ถือว่าน้องปลื้มยังเคราะห์ดีที่มีคนมาพบเห็นทันท่วงที และสามารถช่วยเหลือเอาไว้ได้
----------------ADS----------------
ข่าวบันเทิง ข่าวดารา ___________________________
ที่มา : www.sanook.com
_____________________________________________
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น